รีวิว 10 กล้องติดหมวกกันน็อค ยี่ห้อไหนดี [2024] ราคาไม่แพง ภาพชัด คุณภาพดี

กล้องติดหมวกกันน็อค ยี่ห้อไหนดี

วันนี้เอาใจสายซิ่ง สายแว๊น นักบิด กับอุปกรณ์ช่วยบันทึกภาพขณะขับขี่ด้วย กล้องติดหมวกกันน็อค เพราะตลอดเส้นทางนั้นสำคัญ หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เราจะได้มีหลักฐานแทนการเล่าเรื่องราวเหล่านั้นด้วยตนเอง ซึ่งกล้องติดหมวกถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าคุณจะเดินทางใกล้หรือไกล การติดตั้งกล้องติดหมวกไว้นั้นก็ทำให้เราอุ่นใจมากกว่า โดยการติดตั้งกล้องติดหมวกนั้นจะแตกต่างไปจากกล้องติดรถยนต์ ทั้งขาจับยึด วิธีการ ดังนั้นทั้งกล้องติดหมวกและกล้องติดรถยนต์จึงมีประเภทที่แตกต่างกัน ถึงแม้จะมีไว้เพื่อเหตุผลเดียวกันก็ตาม ในปัจจุบันมีเทคโนโลยที่เพิ่มมากขึ้น การปรับปรุงและพัฒนาเพื่อทำให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายก็มากตามไปด้วย ซึ่งกล้องติดหมวกก็มีหลากหลายยี่ห้อ มินนี่รีวิวจึงได้รวบรวม 10 กล้องติดหมวกกันน็อค ยี่ห้อไหนดี ราคาไม่แพง ภาพชัด คุณภาพดี มาให้ทุกคนได้เลือก ตัดสินใจ และเก็บไว้เป็นข้อมูลสั่งซื้อกัน จะมีตัวไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

กล้องติดหมวก มีประโยชน์อะไรบ้าง

หากจะพูดถึงประโยชน์ของกล้องติดหมวกแล้วละก็ เราจะมาแยกย่อยเป็นข้อๆให้เข้าใจง่ายๆกันค่ะ

  • บันทึกเหตุการณ์: กล้องติดหมวก คือกล้องที่สามารถบันทึกได้ทั้งภาพและวิดีโอ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรสำคัญ ที่เราไม่อาจจะคาดคิด ก็สามารถเก็บเรื่องราว และสามารถกลับมาดูย้อนหลังได้ค่ะ
  • เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่: ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุบนท้องถนนอาจจะมีผู้เสียหายการที่เรามีกล้องติดหมวกนั้นจึงสามารถใช้เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่พนักงานตำรวจและง่ายต่อการดำเนินคดี
  • เคลมประกันง่าย: การที่มีกล้องติดหมวกกันน็อค ก็ทำให้เราสามารถเคลมประกันได้ง่ายเพราะมีหลักฐานการเกิดเหตุ โดยที่ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์บาดแผลให้ยุ่งยาก

มาดูวิธีการเลือกกล้องติดหมวกกัน

  • ความละเอียดภาพและวีดีโอ: เพราะช่วงเวลาในการขับขี่รถจักรยานยนต์มีความเร็ว เราจึงควรเลือกกล้องที่มีความละเอียดภาพและวิดีโอที่เยอะ จะได้เห็นภาพที่ชัดเจนค่ะ ซึ่งความละเอียดที่เหมาะสมคือระดับ HD ไปจนถึง FHD, UHD กันไปเลยค่ะ
  • มุมกว้างของกล้อง: ควรจะมีมุมกว้างตั้งแต่ 90-160 องศา เพื่อจะได้มองเห็นทุกองค์ประกอบบนท้องถนน
  • ขนาด: กล้องติดหมวกควรมีขนาดกระทัดรัด ไม่เทอะทะ เพราะจะต้องติดตั้งไว้บนเหนือศรีษะของเรา และอีกอย่างคือหากกล้องติดหมวก มีขนาดที่ใหญ่ก็จะมีแรงต้านลมที่เยอะอีกด้วย ทำให้มีอุปสรรคทางการขับขี่เพิ่มมากขึ้น
  • น้ำหนัก: กล้องติดหมวกควรมีน้ำหนักที่เบา เพื่อไม่ให้เกิดการปวดเมื่อยและมีความคล่องตัวในการขับขี่
  • มาตรฐานการทนต่อ น้ำ ลม และฝุ่น: กล้องติดหมวกจะติดตั้งไว้ด้านนอก ต้องโดน มลภาวะอากาศมากมายไม่ว่าจะเป็นฝนลมและฝนดังนั้นเราควรเลือกซื้อกล้องติดหมวกที่สามารถทนต่อสภาพอากาศต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยมาตรฐานที่เราสามารถดูได้ง่ายๆ อาทิเช่น IP65 เป็นต้น
  • ราคา: ราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย การที่กล้องติดหมวกมีราคาพอเหมาะพอควร ผู้ใช้งานก็รู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ
  • ความจุแบตเตอรี่: เนื่องจากกล้องประเภทนี้ไม่ได้ต่อกับไฟฟ้าโดยตรงเหมือนกับกล้องติดรถยนต์ ดังนั้นความจุของแบตเตอรี่จึงสำคัญ เราควรเลือกกล้องที่มีความจุของแบตเตอรี่ที่พอเหมาะ สามารถใช้งานได้นาน แต่ก็ไม่เยอะมากจนเกินไปเพราะจะทำให้มีน้ำหนักเยอะค่ะ
  • ดีไซน์: ดีไซน์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อกล้องติดหมวก เพราะจะต้องติดตั้งไว้ภายนอก บุคคลอื่นสามารถมองเห็นได้ง่ายหากมีดีไซน์ที่สวยงามและสีสันที่สะดุดตา ก็บ่งบอกไลฟ์สไตล์ได้ดีเลยทีเดียว
  • ฟังก์ชั่นการใช้งาน: ควรมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เยอะ แต่ใช้งานได้ง่าย อาทิเช่น เชื่อมต่อง่ายได้หลายอุปกรณ์ ทั้งสมาร์ทโฟน แทบเล็ต เพื่อสามารถดูเหตุการณ์ย้อนหลังได้ไม่ยุ่งยาก

1. GoPro Hero 11 Black

GoPro Hero 11 Black กล้องติดหมวก ที่มีความละเอียดสูงถึง 27MP มาพร้อมเบิร์สเรท 30fps ขนาดหน้าจอ 1.9 นิ้วดีไซน์สวยเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ GoPro สามารถอัดหรือบันทึกวิดีโอได้ในความละเอียดมากถึง 5.3K เรียกได้ว่าเป็นความละเอียดในระดับ FULL HD เลยทีเดียว ด้วย 10-bit color depth พันล้านเฉดสี มีระบบการสั่น Hyper Smooth 5.0 ที่อัพเกรดใหม่ แถมยังมีฟังก์ชั่น Webcam Mode มาให้ด้วย ความสามารถในการกันน้ำอยู่ในระดับ 10 เมตรโดยไม่ต้องใช้เคสกันน้ำเลยค่ะ ฟังชั่นการใช้งานมากมายไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชั่น Time Lapse ที่มีทั้ง Star Trails, Light Painting และ Vehicle Light Trails ฟังก์ชั่น Super Photo ช่วยปรับตั้งค่าไฟล์ให้เหมาะกับคุณภาพของรูปถ่าย นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับคำสั่งเสียงได้ถึง 13 คำสั่งโดยมีทั้งหมด 11 ภาษา สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ง่ายๆด้วย Wi-Fi ทั้งหมดนี้สามารถใช้งานได้ในความจุแบตเตอรี่ 1720 mAh ความพิเศษอีกอย่างนึงคือสามารถซูมได้ถึง 8 เท่า บอกได้เลยค่ะว่า เป็นกล้องติดหมวกที่มีทั้งคุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานในระดับพรีเมี่ยมเลยก็ว่าได้ หากใครกำลังมองหากล้องติดหมวกคุณภาพดี คุ้มค่าคุ้มราคา แนะนำ GoPro Hero 11 Black เลยค่ะ

กล้องติดหมวกกันน็อค ยี่ห้อไหนดี

คุณสมบัติ
สามารถปรับระดับคำสั่งเสียงได้ถึง 13 คำสั่งโดยมีทั้งหมด 11 ภาษา
สามารถอัดหรือบันทึกวิดีโอได้ในความละเอียดมากถึง 5.3K หรือระดับความละเอียดในระดับ FULL HD
สามารถในการกันน้ำอยู่ในระดับ 10 เมตรโดยไม่ต้องใช้เคส
สามารถซูมได้ถึง 8 เท่า
มีระบบการสั่น Hyper Smooth 5.0

ข้อจำกัด
มีราคาค่อนข้างสูง

ยี่ห้อGoPro
ราคา฿18,000
รุ่นHero 11 Black

2. SJCAM SJ4000 Air 4K

สำหรับ SJCAM SJ4000 Air 4K Action Camera กล้องติดหมวกสามารถทำเป็น Webcam ได้ ดีไซน์เรียบง่าย น้ำหนักเบา ความละเอียดวิดีโอระดับ FullHD  30fps และความละเอียดภาพ เริ่มตั้งแต่ 2MP-16MP สามารถเก็บได้ทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายหรือวิดีโอ ติดตั้งง่ายโดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่ยุ่งยาก ความจำสามารถรองรับได้ถึง 64GB และความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 900mAh ซึ่งสามารถบันทึก อย่างต่อเนื่องได้นานถึง 70 นาที หน้าจอขนาด 2 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ในระยะ 10 เมตร โดยใช้ควบคุมการสั่งงานภาพถ่าย วิดีโอจากมือถือได้ทันทีเลย ใช้งานได้ง่ายผ่านแอพพลิเคชั่น SJCAM หรือสามารถเชื่อมต่อได้ง่ายง่ายด้วยพอร์ต USB2.0 อีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร มุมกล้องกว้าง 170 องศา สามารถมองเห็นทุกเลนบนท้องถนน ถือได้ว่าเป็นกล้องติดหมวกที่ใช้งานได้ครอบคลุมหากใครสนใจและกำลังมองหาอยู่แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ

กล้องติดหมวกกันน็อค ยี่ห้อไหนดี

คุณสมบัติ
ความละเอียดวิดีโอระดับ FullHD
สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ในระยะ 10 เมตร
สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร
มุมกล้องกว้าง 170 องศา สามารถมองเห็นทุกเลนบนท้องถนน
น้ำหนักเบา

ยี่ห้อSJCAM
ราคา฿1,890
รุ่นSJ4000 Air 4K

3. Aston Bike camera

Aston Bike camera ดีไซน์สวย ด้วยคุณสมบัติมากมาย ทั้งกันน้ำกันฝุ่น กล้องหน้า 1080P 30fps เลนส์กว้างถึง 120 องศา โดยที่ชนิดไฟล์ของวิดีโอเป็นแบบ AVI สามารถรองรับ WDR ได้ ความละเอียดของภาพนิ่งอยู่ที่ 1.3MP-12MP ซึ่งไฟล์ภาพเป็นแบบ JPG ตัวนี้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi และ mini USB สามารถใช้งานได้ง่ายมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของนักบิดและผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี รองรับ Loop REC ได้มากถึง 5 รอบเลยทีเดียว อีกทั้งยังมี Motion Detection อีกด้วย สามารถใช้งานได้นานด้วยความจุแบตเตอรี่ที่ 900 mAh ชาร์จแบตเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถออกไปท่องเที่ยวบนท้องถนนได้อย่างยาวนานเลยค่ะ น้ำหนักเบาไม่หนักหัว นอกจากจะเชื่อมต่อง่ายได้หลายอุปกรณ์แล้ว ยังสามารถติดตั้งง่ายไม่ยุ่งยาก ซึ่งในกล่องนั้นมีอุปกรณ์ติดตั้งให้อย่างครบครัน และสามารถทำได้ง่ายพร้อมดูคู่มือประกอบค่ะ ไม่ว่าใครกำลังมองหากล้องติดหมวกให้กับตัวเองหรือเป็นของขวัญ ขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะรับรองจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

Aston Bike camera

คุณสมบัติ
กันน้ำกันฝุ่น
สามารถรองรับ WDR ได้
สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi และ mini USB
น้ำหนักเบาไม่หนักหัว

ยี่ห้อAston
ราคา฿990
รุ่นAston Bike camera

4. Nanotech 4K Ultra HD WIFI FREE Remote K80

หากคุณกำลังมองหากล้องติดหมวกที่มีทั้งความอึดและคุณสมบัติครบครัน Nanotech 4K Ultra HD WIFI FREE Remote รุ่นนี้บอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่คุณกำลังตามหาอยู่แน่นอน ดีไซน์ด้วยกรอบเล็กกระทัดรัดสวยรหรู หน้าจอกว้างถึง 2 นิ้ว ซึ่งสามารถเปิดดูภาพและวิดีโอได้อย่างชัดเจน สามารถใช้งานได้ง่ายผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ Wi-Fi บนสมาร์ทโฟน และอีกหนึ่งการควบคุมโดยใช้รีโมท ความละเอียดภาพอยู่ในระดับ UltraHD 4K สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร มุมกว้างของกล้องสามารถมองได้ถึง 170 องศาไม่ว่าจะเป็นรถหรือวัตถุข้างถนน ก็สามารถบันทึกภาพได้อย่างครอบคลุมเลยทีเดียว มีฟังชั่น slow motion ขนาดของรูปภาพอยู่ที่ 5M-20M รูปแบบที่บันทึกคือ MOV และ JPG ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องด้วยความจุแบตเตอรี่ 1050 mAh ซึ่งแบตเตอรี่ Li-ion สามารถถอดออกได้ มีพื้นที่จัดเก็บมากถึง 128 GB เลยค่ะ นอกจากนี้อุปกรณ์เสริมในกล่องยังมอบให้อย่างครบครัน มีทั้งกรอบกันน้ำ ที่ติดรถ ติดหมวก และติดแฮนด์ อีกทั้งยังมีหัวต่อสำหรับไม้เซลฟี่อีกด้วย ถือว่าครบจบในเครื่องเดียว รับรองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนค่ะ

Nanotech 4K Ultra HD WIFI FREE Remote K80

คุณสมบัติ
สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร
สามารถใช้งานได้ง่ายผ่านหลายช่องทาง ทั้ง Wi-Fi บนสมาร์ทโฟน
ความละเอียดภาพอยู่ในระดับ UltraHD 4K
มุมกว้างของกล้องสามารถมองได้ถึง 170 องศา

ยี่ห้อNanotech
ราคา฿1,790
รุ่นK80

5. DJI Osmo Action 3 Standard ComboSet Beyond the Edge

DJI OSMO Action 3 Standard Combo Set Beyond the Edge ดีไซน์เคร่งครึ้มสวยงามไม่แพ้ใคร ด้วยจอด้านหน้าขนาด 1.4 นิ้ว และหลังขนาด 2.25 นิ้ว เปิดประสบการณ์ใหม่ของการบันทึกภาพบนท้องถนน ด้วย Osmo Action 3 สามารถติดตั้งได้ง่ายทั้งแนวนอนและแนวตั้ง อีกทั้งหน้าจอยังเป็นการสัมผัสได้ทั้งหน้าและหลังซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีคุณสมบัติมากมายตอบสนองความต้องการของใครหลายคน อย่างแรกเลยคือน้ำหนักเบาเพียง 145 กรัม สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 16 เมตร โดยไม่ต้องมีเคสกันน้ำ หรือถ้าหากใส่เคสก็สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 60 เมตรเลยทีเดียว ขนาดพอเหมาะพอดีอยู่ที่ 70.5×44.2×32.8 มิลลิเมตร มีเซนเซอร์ CMOS . 1/1.7 นิ้ว คุณภาพของวิดีโออยู่ที่ 100-12800″ ส่วนภาพถ่ายมีคุณภาพตั้งแต่ 100-12800P โดยสามารถซูมได้มากถึง 4 เท่า ความเร็วชัตเตอร์ 1/8000 วินาที ทั้งภาพและวิดีโอ นอกจากคุณภาพของรูปที่ถ่ายนั้นอยู่ในระดับดีมากแล้วยังสามารถเก็บเสียงได้ดีด้วยจำนวนไมโครโฟนถึง 3 ตัวอีกด้วย เลนส์กล้องกว้าง 155 องศา มีรูรับแสงอยู่ที่ f/2.8 สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันด้วยความจุแบตเตอรี่ 1770 mAh และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่มีผลดีกับการใช้งานคือสามารถรองรับหรือเก็บความจำได้มากสูงสุดถึง 256 GB เลยค่ะ

DJI Osmo Action 3 Standard Combo

คุณสมบัติ
มีหน้าจอสัมผัสได้ทั้งหน้าและหลัง
สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 16 เมตร โดยไม่ต้องมีเคสกันน้ำ หรือถ้าหากใส่เคสก็สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 60 เมตร
เก็บเสียงได้ดีด้วยจำนวนไมโครโฟนถึง 3 ตัว
สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน

ยี่ห้อDJI
ราคา฿4,550
รุ่นOsmo Action 3 Standard Combo Set Beyond the Edge

6. EKEN H9R 4K

กล้องติดหมวก ที่สามารถควบคุมการใช้งานได้ง่ายด้วยรีโมทไร้สาย EKEN รุ่น H9R ควบคุมการใช้งานในรัศมีรีโมทประมาณ 10-15 เมตร รองรับการใช้งานผ่าน Wifi และยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ได้ทั้งระบบ iOS และ Android อีกด้วย รับรองความละเอียดของภาพสูงสุดถึง 4K ที่มีเบิร์สเรท 25fps ค่ะ ไฟล์เสียงเป็นแบบ Wave Format และมีโหมดถ่ายภาพนิ่ง รองรับความละเอียดตั้งแต่ 4MP-12MP มุมกล้องกว้างสุดๆถึง 170 องศา อีกทั้งยังมีระบบ White balance ด้วยความแม่นยำทำให้ได้สีสันที่ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบันทึกและเก็บความจำได้ 64 GB ในชนิด micro SD แบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อนสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานเราราว 1.1 ชั่วโมงด้วยความจุสูงสุด 1050mAh นอกจากจะสามารถเชื่อมต่อง่ายง่ายด้วยไฟไฟ Wi-Fi บนสมาร์ทโฟนแล้วยังมีช่องทางการเชื่อมต่อด้วย MIHDMI และ micro USB น้ำหนักเบาบางมากเพียง 64 กรัม หน้าจอด้านหลังขนาด 2 นิ้วดีไซน์เก๋ไก๋ ด้วยเลนส์แก้วคุณภาพ มาพร้อมกับ coating ป้องกันสีเพี้ยน บอกได้เลยค่ะว่า เป็นกล้องติดหมวกอีกรุ่นที่แนะนำ

EKEN H9R 4K

คุณสมบัติ
สามารถควบคุมการใช้งานได้ง่ายด้วยรีโมทไร้สายประมาณ 10-15 เมตร
รองรับการใช้งานผ่าน Wifi และแอพพลิเคชั่น ได้ทั้งระบบ iOS และ Android
มีระบบ White balance ที่มีความแม่นยำทำให้ได้สีสันที่ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
รองรับความละเอียดของภาพสูงสุดถึง 4K
มีน้ำหนักเบา

ยี่ห้อEKEN
ราคา฿2,290
รุ่นH9R

7. WELLCAM by AUSEK 4K AT-Q37C

ตัวนี้ประทับใจตั้งแต่เห็นภายนอก ด้วยกล่องอะคริลิค ทรทาน โดนใจเป็นอย่างมาก WELLCAM by AUSEK 4K AT-Q37C กล้องติดหมวก ที่สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่ายโดยสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดข้างกล่องเพื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ในทันที มีระบบกันสั่นและ ต่อไมค์นอกได้ โดยไม่ต้องแปลงให้มีความยุ่งยาก คุณสมบัติสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 30 เมตร รองรับหน่วยความจำได้มากถึง 128 GB ฟังก์ชันการใช้งานครบ รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความละเอียดอยู่ในระดับ 4K 60spf เล่นมีความกว้างสามารถถ่ายได้มากสุดถึง 170 องศา ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือสามารถกวนถ่ายภาพได้จากสมาร์ทโฟน และสามารถดึงภาพเข้าสมาร์ทโฟนในแบบไร้สายได้ รองรับได้ทั้งแอนดรอยด์และ iOS ค่ะ น้ำหนักเบา สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ยิ่งถ้าใครเป็นสายลุยแล้วละก็ ตัวนี้ถือว่าเป็นคำตอบที่ดีสำหรับผู้ใช้งานหลายคนเลยค่ะ หากคุณกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกซื้อกล้องติดหมวกยี่ห้อไหนดี แนะนำ WELLCAM by AUSEK 4K AT-Q37C ACTIONCAMERA เพราะไม่ใช่แค่สามารถใช้งานได้ง่าย แต่ยังติดตั้งได้ง่ายๆ กับหลายอุปกรณ์อีกด้วย

WELLCAM by AUSEK 4K AT-Q37C

คุณสมบัติ
รองรับได้ทั้งแอนดรอยด์และ iOS
ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
สามารถกันน้ำลึกได้ถึง 30 เมตร
มีความกว้างสามารถถ่ายได้มากสุดถึง 170 องศา

ยี่ห้อWELLCAM
ราคา฿1,610
รุ่นAT-Q37C

8. InnTech Sport Cam 4K UHD Dual Screen รุ่น HM3

กล้องติดหมวก InnTech Sport Cam 4K UHD Dual Screen รุ่น HM3 ดีไซน์สวยมาพร้อมกับหน้าจอ TFT LCD 2.4 นิ้ว ที่แสดงผลในโหมดต่างๆไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาบอกเวลาและระดับของแบตเตอรี่ ทำให้คุณสามารถใช้งานได้ง่าย บันทึกวิดีโอได้ในระดับความละเอียดถึง 4K Ultra HD 30FPS และภาพถ่ายด้วยความละเอียดสูงถึง 16MP รูปแบบการบันทึกภาพเป็น  JPG สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตรและมีลำโพงในตัว ทำให้คุณภาพทั้งวิดีโอและเสียงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีเซนเซอร์ CMOS 3M อีกทั้งยังสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวโดยเปิดปิดได้อัตโนมัติอีกด้วย มุมกล้องกว้างถึง 170 องศา สามารถบันทึกภาพได้ครอบคลุมทุกเลนถนน รองรับได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในพื้นที่ความจำ 64 GB สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายง่ายด้วย Wi-Fi และแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนหรือจะต่อด้วยพอร์ต HDMI ก็ได้ ง่ายๆไม่ยุ่งยาก มีแบตเตอรี่ในตัวสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 90 นาที นอกจากนี้ยังแถมรีโมทสอง. 4G สำหรับกดถ่ายภาพวิดีโอมาให้อีกด้วย หากใครได้ไปถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนค่ะ

InnTech Sport Cam 4K UHD Dual Screen รุ่น HM3

คุณสมบัติ
สามารถบันทึกภาพได้ครอบคลุมทุกเลนถนน
บันทึกวิดีโอได้ในระดับความละเอียดถึง 4K Ultra HD 30FPS และภาพที่คมชัด
รองรับได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายง่ายด้วย Wi-Fi และแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนหรือจะต่อด้วยพอร์ต HDMI
สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร

ข้อจำกัด
แบตเตอรี่ใช้งานได้ 90 นาที

ยี่ห้อInnTech Sport Cam
ราคา฿2,490
รุ่นHM3

9. SJCAM SJ6 LEGEND 4K

กล้องติดหมวก SJCAM SJ6 LEGEND 4K เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมจากวงการนักบิดจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของดีไซน์และคุณสมบัติของการใช้งานที่ครบครัน เริ่มต้นจากหน้าจอทัชสกรีน LCD 2 นิ้ว มีความละเอียดที่สามารถบันทึกวิดีโอได้มากถึง 4K และในส่วนของตัวรูปภาพนั้นมีความคมชัดมากถึง 16MP สามารถเชื่อมต่อและควบคุมการใช้งานได้ง่ายๆ ด้วย Wi-Fi, แอพพลิเคชั่น, พอร์ต mini USB หรือ HDMI และ รีโมท พื้นที่หน่วยความจำสามารถรองรับได้มากถึง 128GB สามารถใช้งานได้ยาวนาน 130 นาทีบนหน่วยความจุของแบตเตอรี่ 1050mAh เลยทีเดียว ถึงแม้ความจุของแบตเตอรี่จะเยอะแต่ก็ไม่ทำให้ ตัวเครื่องหนักเลย เพราะรุ่นนี้มีน้ำหนักอยู่เพียงแค่ 92 กรัมเท่านั้น จัดเต็มทุกโหมดการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Timelapse, Burst mode, Car mode, Underwater mode, FPV mode, Slow motion, Video+Photo Mode และ TV mode บอกได้เลยว่าหากใครได้ไปคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน ถ้าคุณกำลังลังเลอยู่ว่าจะซื้อกล้องติดหมวกยี่ห้อไหนถึงจะมีคุณภาพดีและราคาสมเหตุสมผลแนะนำ SJCAM รุ่นนี้เลยค่ะ

SJCAM SJ6 LEGEND 4K

คุณสมบัติ
มีความละเอียดที่สามารถบันทึกวิดีโอได้มากถึง 4K
สามารถเชื่อมต่อและควบคุมการใช้งานได้ง่ายๆ ด้วย Wi-Fi, แอพพลิเคชั่น, พอร์ต mini USB หรือ HDMI และ รีโมท
สามารถใช้งานได้ยาวนาน 130 นาที
มีความจุของแบตเตอรี่ที่เยอะ
สามารถบันทึกภาพและวีดีโอได้จัดเจนในทุกสถานการณ์

ยี่ห้อSJCAM
ราคา฿3,990
รุ่นSJ6 LEGEND 4K

10. Mi Action Camera 4K

กล้องติดหมวกในเครือ Xiaomi ที่นับได้ว่าเป็นสมาร์ทไอเท็มของหลายๆตัว เพราะสามารถเชื่อมต่อได้ง่ายใช้ งานได้สะดวก และมีรูปร่างดีไซน์ที่โดนใจผู้คนในยุคนี้เป็นอย่างดี รุ่นนี้มีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 1450mAh ถือว่าได้เยอะมากๆเลยทีเดียว แต่น้ำหนักเบาเพียง 99 กรัมเท่านั้น กล้องที่อยู่ในราคาไม่แพง แต่กลับได้กล้องติดหมวกที่มีทั้งคุณสมบัติและคุณภาพที่ดี มาพร้อมหน้าจอขนาด 2.4 นิ้ว มีมุมกล้องกว้างถึง 145 องศา มีเลนส์แบบกระจก 7 ชิ้น ขนาดของรูรับแสง f/2.8 และโฟกัส 3.2 ด้วยความละเอียดของวิดีโอที่มีมากถึง 4K ชัดเจนทุกอริยบทเลยทีเดียว รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Time-lapse และSlow-motion และภาพนิ่งสามารถถ่ายได้ทั้งภาพปกติ ตั้งเวลาและภาพถ่ายต่อเนื่องถึง 9 Shoot มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ให้มาแบบจัดหนักจัดเต็ม มีทั้งเซ็นเซอร์ Sony IMX 317 ระบบกันสั่นของภาพ EIS โดยบันทึกภาพเป็นแบบไฟล์ JPG และ RAW มีไมโครโฟนคู่ที่สามารถบันทึกเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi และ Bluetooth ผ่านสมาร์ทโฟน รุ่นนี้สามารถรองรับการใช้งานของภาษาได้สองภาษาคือภาษาอังกฤษและจีน มีพื้นที่ความจำอยู่ที่ 64GB ดีทั้งคุณภาพและครบครันด้วยคุณสมบัติต่างๆ เป็นอีกหนึ่งกล้องติดหมวกที่ควรมีเลยค่ะ

Mi Action Camera 4K

คุณสมบัติ
มีน้ำหนักเบา
มีมุมกล้องกว้างถึง 145 องศา
สามารถรองรับการใช้งานของภาษาได้สองภาษาคือภาษาอังกฤษและจีน
ความละเอียดของวิดีโอมีมากถึง 4K ชัดเจนทุกอริยบท
รองรับการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi และ Bluetooth
รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Time-lapse และSlow-motion

ยี่ห้อMi
ราคา฿2,990
รุ่นMi Action Camera 4K