รีวิว 10 เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี [2024] แบบไฟฟ้า และมือหมุน บดได้ละเอียด ราคาไม่แพง

กาแฟ เครื่องดื่มที่ใครหลายๆคนขาดไม่ได้ในตอนเช้าต้องดื่มเป็นประจำสำหรับบางคนชอบที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นพิเศษอยากจะทำโฮมคาเฟ่ของตัวเองที่บ้านมีทั้ง เครื่องชงกาแฟ มี เมล็ดกาแฟคั่ว แล้วที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ เครื่องบดกาแฟ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คุณดื่มกาแฟสดของคุณทำได้ง่าย สะดวก สบาย และอร่อยมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเครื่องบดดี มีคุณภาพ เวลาที่บดออกมาก็จะได้กาแฟที่สวย เนื้อละเอียด ทำให้การชงกาแฟเป็นอะไรที่ง่าย ซึ่งเครื่องบดกาแฟก็มีให้เลือกซื้อมากมาย หลายยี่ห้อ หลายประเภท มีรูปแบบการใช้งานแตกต่างกันออกไป และราคาก็แตกต่างกันด้วย สำหรับบางคนเป็นมือใหม่ อยากทำกาแฟทานเองที่บ้าน  ยังหาข้อมูลในการตัดสินใจซื้อหรือเลือกอยู่วันนี้มินนี่รวบรวม 10 เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี แบบไฟฟ้า และมือหมุน บดได้ละเอียด ราคาไม่แพง พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากด้วยค่ะ ไปดูกัน

ประเภทของเครื่องบดกาแฟ

เครื่องบดกาแฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

1. เครื่องบดแบบใช้มือหมุน
   เครื่องบดประเภทนี้จะใช้มือหมุน สำหรับคนที่ชอบความคลาสสิก ความพิถีพิถันในการบดกาแฟ แต่การตวงแต่ละครั้งจะต้องกะน้ำหนักมือให้ดี และแม่นยำ แล้วเวลาที่หมุนก็ต้องใช้น้ำหนักมือที่คงที่ด้วย เพื่อให้ได้ผงกาแฟที่ต้องการ นอกจากนี้เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนยังมีทั้งแบบใช้กล่องไม้ และแบบสเตนเลส ให้คุณได้เลือกใช้ตามต้องการ มีน้ำหนักเบา ทำเองได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะที่บ้านหรือพกพาไปแคมป์ปิ้งค่ะ
2. เครื่องบดแบบอัตโนมัติ หรือแบบไฟฟ้า
   เครื่องบดประเภทนี้เป็นเครื่องบดที่ช่วยให้คุณทุ่นเวลา ทุ่นแรงได้เยอะเลยค่ะ เพราะใช้เวลาบดกาแฟไม่นานก็เสร็จ ได้กาแฟที่เนื้อละเอียด กลิ่นหอม และยังใส่เมล็ดกาแฟได้ครั้งละมากๆ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่ทันสมัยให้คุณได้เลือกใช้ ส่วนมากนิยมใช้กันตามร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ต่างๆ ค่ะ

ชนิดของจานบด

จานบดของเครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้ามี 3 ประเภท ได้แก่

1. จานบดแบบใบมีด Whirly Blade Grinder
   ลักษณะของจานบดประเภทนี้มีรูปทรงคล้ายใบมีดที่เป็นโลหะติดกับมอร์เตอร์เมื่อเครื่องทำงานจะหมุน และตีเมล็ดกาแฟให้ละเอียด แต่ขนาดของผงกาแฟที่ได้จะไม่สม่ำเสมอกัน มีทั้งผงที่ละเอียด และหยาบ อาจให้รสชาติของกาแฟที่ไม่สม่ำเสมอ ราคาไม่แพง
2. จานบดแบบเฟืองทรงกรวย Conical Burr
   จานบดประเภทนี้มีลักษณะเป็นกรวยคว่ำ เป็นที่นิยมกันอย่างมาก เพราะบอดกาแฟได้ไว ละเอียด ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่สม่ำเสมอกัน และที่สำคัญยังมีรอบความเร็วในการบดที่ต่ำ ทำให้ไม่เกิดความร้อนสะสมที่ตัวเครื่องด้วยค่ะ
3. จานบดแบบเฟืองบดทรงแบน  Flat Burr
   จานบดประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นเฟืองบด 2 ชิ้น ประกบกัน เฟืองด้านหนึ่งจะเป็นตัวหมุน เฟืองอีกด้านหนึ่งเราสามารถปรับระดับความห่าง สามารถปหรับระดับความละเอียด หยาบของกาแฟที่เราบดได้ค่ะ

ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟ

สำหรับคนไหนที่เป็นมือใหม่อยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง หรืออยากได้เครื่องบดกาแฟไว้ทำเองที่บ้าน ก่อนเลือกซื้อควรพิจารณาตามข้อดังต่อไปนี้

1. ดีไซน์
   เครื่องบดกาแฟ มีดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน บางรุ่นมีดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก จัดเจ็บง่าย เหมาะกับการใช้งานที่บ้าน หรือพกพาไปนอกสถานที่ได้ แต่สำหรับบางเครื่องมีดีไซน์เก๋ รูปทรงขนาดใหญ่ เหมาะกับร้านที่ขายกาแฟ หรือสำหรับบ้านไหนที่มีพื้นที่วางค่อนข้างเยอะค่ะ
2. ขนาดวามบรรจุของที่ใส่เมล็ดกาแฟ
   การเลือกตัวโถที่บรรจุเมร็ดกาแฟก็มีส่วนสำคัญ หากคนที่กำลังเปิดร้านกาแฟ หรือเปิดอยู่ควรเลือกโถที่สามารถบรรจุเมล็ดกาแฟได้ครั้งละมากๆ เพื่อที่จะได้กาแฟบดเยอะ ทำกาแฟได้ตั้งแต่ 10 แก้วขึ้นไป และประหยัดเวลาในการบดด้วยค่ะ
3. เลือกให้ตรงกับการใช้งาน
   ก่อนที่คุณจะซื้อเครื่องบดกาแฟควรเลือกให้เหมาะกับการใช้ เช่น
   • หากคุณเป็นคนชอบเที่ยว ไปแคมป์ปิ้งบ่อยๆ แต่ชอบดื่มกาแฟด้วย แนะนำให้เลือกเครื่องบดกาแฟที่มีขนาดเล็ก หรือแบบมือหมุน พกพาสะดวก ใช้ในปริมาณที่ไม่เยอะ ไม่ต้องหาปลั๊กต่อให้ยุ่งยาก
   • หากคุณต้องการไปใช้ในร้านกาแฟ แนะนำให้เลือกเครื่องบดกาแฟแบบที่ใส่ปริมาณเมล็ดกาแฟได้ครั้งละมากๆ บดได้ละเอียด บดไว ไม่มีกาแฟตกค้างในเครื่อง และมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ทำความสะอาดง่ายค่ะ
   • สำหรับใช้ที่บ้านแนะนำให้เลือกแบบที่ใช้งานง่าย เครื่องไม่ใหญ่มากเพื่อที่จะได้ไม่เปลืองพื้นที่ในบ้าน เคลื่อนย้ายสะดวก ถอดล้างทำความสะอาดง่าย
4. เลือกที่ดูจากฟังก์ชันการใช้งาน
   ฟังก์ชันการใช้งานของเครื่องบดกาแฟก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เราจตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เช่น
   • สามารถบดได้เร็ว เนื้อกาแฟละเอียด สวย
   • มีฟังก์ชันการบดหลายแบบ ตั้งแต่หยาบ จนถึงละเอียดมาก
   • ถอดล้างทำความสะอาดง่าย
   • สามารถตั้งค่าปรับระดับความเข้มข้นของกาแฟได้ 3 แบบ อ่อน ปกติ และเข้ม
   • มีจานบดขนาดใหญ่
5. เลือกที่มีบริการหลังการขาย หรือการรับประกัน
   สินค้าที่มีการรับประกันหลังการขายเป็นเรื่องที่ดี เพราะเวลาที่คุณซื้อสินค้าไปแล้วเกิดชำรุด ขัดข้อง หรือมีปัญหาต่างๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขเองได้ เราสามารถสอบถาม ส่งซ่อมแซม หรือเปลี่ยนสินค้าตัวใหม่ได้เลย แต่หากไม่มีการรับประกัน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนคืนสินค้าได้ และอาจจะต้องไปซื้อเครื่องใหม่มาทดแทน ทำให้สิ้นเปลืองไปอีกค่ะ
6. เลือกที่ได้มาตรฐาน
   สินค้าที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าอิเล็กทอนิกส์ควรมีเครื่องหมายได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อจะได้ยืนยันได้ว่า สินค้านั้นปลอดภัยใช้แล้วจะไม่เกิดอันตรายแก่เรา และคนในครอบครัว แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ควรซื้อ เพราะนั้นคือสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซื้อไปใช้อาจเป็นอันตรายได้ และอาจจะมีอายุการใช้งานที่น้อยด้วยค่ะ

ข้อดีของเครื่องบดกาแฟที่ดี

1. สามารถปรับระดับเวลาบด ได้ตั้งแต่ละเอียด หยาบได้ตามต้องการ 
2. ผงกาแฟที่บดออกมา มีความสม่ำเสมอกัน
3. ให้รสชาติกาแฟที่ดี สม่ำเสมอกัน
4. สามารถบดกาแฟได้เร็วทันใจ ประหยัดเวลา
5. สามารถบดกาแฟได้ครั้งละมากๆ ทำให้ชงกาแฟได้หลายแก้ว
6. บดแล้วไม่มีกาแฟตกค้างในเครื่อง ทำให้การบดครั้งต่อไปไม่เสียรสชาติของกาแฟ
7. ระหว่างที่รอกาแฟบด คุณสามารถไปทำกิจกรรมอื่นรอได้ โดยไม่เสียเวลาค่ะ

1. DELONGHI เครื่องบดกาแฟ Dedica รุ่น KG521.M

DELONGHI เครื่องบดเมล็ดกาแฟ Dedica รุ่น KG521.M รุ่นนี้มาพร้อมโถที่จุเมล็ดกาแฟได้ถึง 350 กรัม โถบรรจุผงกาแฟที่บดแล้ว ได้ 170 กรัม มีฟังก์ชันที่สามารถตั้งค่าปรับระดับความเข้มข้นของกาแฟได้ 3 แบบคือ อ่อน ปกติ และเข้ม สามารถบดเมล็ดกาแฟได้ครั้งละ 14 ถ้วย ตัวเครื่องบดทำด้วยสเตนเลส สวยงาม ทนทาน แข็งแรง ชุดเครื่องบดทำด้วยสเตนเลสอย่างดี ทนทาน ใช้งานได้นาน หน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลแอลอีดีมองเห็นเวลาในการบดได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับความละเอียดของผงกาแฟที่ต้องการได้ 18 ระดับ และสามารถ สามารถเลือกปริมาณกาแฟที่ต้องการได้ โถที่ใส่เมล็ดกาแฟ และที่ใส่ผงกาแฟบด สามารถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย หากคุณกำลังต้องการเครื่องบดกาแฟ ที่ได้มาตรฐาน คุณภาพเยี่ยม บดไว ใช้งานง่าย แนะนำ DELONGHI รุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	DELONGHI
ราคา	฿12,900
ขนาดโถ	350 กรัม

2. Duchess เครื่องบดกาแฟ รุ่น CG9300

มารู้จักเครื่องบดกาแฟที่มีราคาย่อมเยา แต่มากไปด้วยฟังก์ชันการทำงาน อย่าง Duchess เครื่องบดเมล็ดกาแฟ รุ่น CG9300 ทำให้เพลิดเพลินกับกาแฟสดที่บดในไม่กี่วินาที เครื่องบดเมล็ดกาแฟรุ่นนี้เป็นแบบไฟฟ้า ใช้งานง่ายเพียงกดปุ่มหนึ่งครั้งเครื่องก็จะทำงานอัตโนมัติ ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุที่เป็นพลาสติกเกรดพรีเมี่ยมสีดำพร้อมกรอบตกแต่งเงิน แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน มีใบมีด เฟืองบด แบบทรงกรวยที่สามารถบดได้ไว ละเอียด และแยกออกได้ ถังใส่เมล็ดกาแฟแบบใสมองเห็นปริมาณเมล็ดกาแฟที่ใส่ลงไป พร้อมทั้งแยกกับถังใส่ผงกาแฟที่บดแล้ว ตัวอุปกรณ์ของเครื่องสามารถถอดทำความสะอาดได้ ง่ายต่อการใช้งาน ตัวโถบรรจุเมล็ดกาแฟถึง 250g และโถบรรจุผงกาแฟที่บดแล้วได้ 130g และที่สำคัญสามารถปรับระดับพลังการบดได้สูงถึง 35 ระดับ เมื่อบดแล้วได้ปริมาณผงบดถึง 14 ถ้วยเครื่องบดเมล็ดกาแฟรุ่น CG9300 มี 2 สีให้คุณเลือกคือ ดํา กับขาว ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย แนะนำเลยค่ะ

ยี่ห้อ	Duchess
ราคา	฿2,590
ขนาดโถ	250 กรัม

3. TIMEMORE C3 รุ่น 2022

TIMEMORE เครื่องบดกาแฟมือหมุน C3 รุ่น 2022 เครื่องบดที่มีเฟืองบดแบบ S2C660 ทำจากวัสดุ SUS420 Five Axis CNC Stainless Steel HRC55-58 สามารถควบคุมความละเอียดของเมล็ดกาแฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้บดได้เร็ว และมีความสม่ำเสมอ ได้คุณภาพของกาแฟบดที่แตกต่างจากเฟืองมาตรฐานทั่วไป พร้อมทั้งช่วยเสริมความชัดเจนของบอดี้ กลิ่น และรสชาติของกาแฟด้วย เหมาะสำหรับการบดกาแฟทุกประเภท นอกจากนี้ถ้าบดกับกาแฟที่คั่วอ่อนก็จะทำให้ดีขึ้นไปอีก ด้วยการออกแบบพื้นผิวภายนอกเป็นแบบไม่เรียบ เพื่อให้การจับระหว่างทำการบดกาแฟมั่นคง ไม่ลื่นไหล ตัวโถรับกาแฟที่บดแล้ว และวัสดุภายนอกทำจาก Aluminum Alloy น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง พกพาสะดวก มีลูกปืนรองแกนบดสองตัว เพื่อรองรับการหมุนของแกนกลาง ช่วยให้หมุนได้อย่างไม่ติดขัด และสม่ำเสมอ และสามารถทำการบดเมล็ดกาแฟได้มากสุดประมาณ 25 กรัม หากคนไหนอยากชอบแนววินเทจ หรือไปออกแคมป์ปิ้งเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนตัวนี้ เหมาะกับคุณเลยค่ะ แนะนำ

ยี่ห้อ	TIMEMORE
ราคา	฿1,745
ขนาดโถ	50 กรัม

4. BUONO รุ่น BUO-12CG03 VERASU

มาดื่มด่ำกาแฟในวันว่างๆ ของคุณด้วย BUONO เครื่องบดกาแฟ รุ่น BUO-12CG03 VERASU เครื่องรุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชันที่สามารถปรับระดับความหยาบ ละเอียดได้ถึง 31 ระดับ โดยการหมุนที่ตัวโถ มีล็อกที่ตัวโถบดกันไม่ให้ตัวโถขยับขณะบดอยู่ โถมีสีชาช่วยป้องกันแสงแดดทำให้ใช้งานได้นานขึ้น มีหน้าจอแสดงผลแบบ LED ทำให้มองเห็นเวลาได้ชัดเจน มีปุ่มตั้งเวลาบดต่อถ้วย สามารถบดกาแฟอัตโนมัติได้ 1-5 แก้ว ต่อการบด 1 ครั้ง/แก้ว นอกจากนี้ยังสามารถสามารถเลือกเวลาในการบดได้ตามที่คุณต้องการตั้งแต่ 10-25 วินาที และรุ่นนี้มีจานบดกาแฟที่ทรงพลังอย่าง Conical Bur ทำให้การบดเป็นเรื่องที่ง่าย และไวใช้งานง่าย สำหรับใครที่เป็นมือใหม่อยากลองใช้ก็สามารถทำได้ ไม่ยุ่งยาก แนะนำเลยค่ะ

ยี่ห้อ	BUONO
ราคา	฿3,490
ขนาดโถ	275 กรัม

5. Niche Zero รุ่น Single dose

Niche Zero เครื่องบดกาแฟ รุ่น Single dose ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียม และไม้แท้มีความแข็งแรง ใช้งานได้นาน มีความเร็วในการบด 1-2 กรัมต่อวินาที ได้ปริมาณที่สม่ำเสมอ ตัวโถจุได้ 50 กรัม มีเฟืองบดทรงกรวยที่ทรงพลังอย่าง Conical burrs ขนาด 63 mm สามารถบดกาแฟได้เร็ว ละเอียด รุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชันการปรับความละเอียดในการบดได้ทั้งสำหรับชงแบบเอสเพรสโซ่ ดริป ฟิลเตอร์ แอโร่เพรส หรือเฟรนช์เพรส เมื่อบดเสร็จแล้วเหลือเศษกาแฟตกค้างในเครื่องหลังบดน้อยมาก ทำให้ได้ปริมาณกาแฟที่แม่นยำมากขึ้น และไม่เสียเมล็ดกาแฟทิ้งไปเปล่าๆ เสียงขณะตัวเครื่องทำงานอยู่ที่ 72 เดซิเบล ซึ่งเงียบ เครื่องบดรุ่นนี้ใช้งานง่าย มีถ้วยสเตนเลสสำหรับรองผงกาแฟ สะดวกสำหรับนำไปเทใส่เครื่องชงอื่น ขนาดตัวเครื่องกะทัดรัดทำให้หาที่วางได้ง่าย มีจาน NFC กันเมล็ดกระเด็น และที่สำคัญมีระบบเซฟตี้หากคุณลืมปิดฝาเครื่องบดด้วยค่ะ

ยี่ห้อ	Niche Zero
ราคา	฿33,500
ขนาดโถ	50 กรัม

6. SMEG รุ่น CGF01CREU

เครื่องบดกาแฟดีไซน์สวยสไตล์ยุค 50 จาก SMEG รุ่น CGF01CREU รุ่นนี้ตัวเครื่องผลิตจากสเตนเลสสตีลที่มีความแข็งแรง ทนทานไม่เป็นสนิม ตัวฝา และภาชนะใส่เมล็ดกาแฟผลิตจากพลาสติก Tritan ภาชนะใส่กาแฟบดผลิตจากพลาสติก Tritan ตัวใบมีดผลิตจากสเตนเลสสตีล สามารถถอดทำความสะอาดได้ ตัวถังกาแฟบดมาพร้อมระบบ Twist & Lock สามารถจุเมล็ดกาแฟได้มากถึง 350 ก.ส่วนที่ใส่กาแฟบดสามารถจุได้ 130 ก. มีฐานวางแบบกันลื่นให้เพื่อไม่ให้ตัวเครื่องขยับขณะกำลังทำงาน SMEG เครื่องบดกาแฟรุ่นนี้สามารถปรับความละเอียดของการบดได้ถึง 30 ระดับ และระดับความละเอียด ได้แก่ บดละเอียด บดละเอียดปานกลาง และบดแบบหยาบ 2 ฟังก์ชัน สำหรับการบดละเอียด 6 ฟังก์ชัน สำหรับบดละเอียดปานกลาง และบดแบบหยาบพร้อมฟังก์ชั่น Manual สำหรับใครที่ต้องการเครื่องบดกาแฟดีไซน์คลาสสิก แนะนำ SMEG รุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	SMEG
ราคา	฿16,900
ขนาดโถ	350 กรัม

7. Mahlkonig รุ่น X54

Mahlkonig X54 เครื่องบดกาแฟขนาดกลาง รุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชันการตั้งค่าขนาดการบดเมล็ดกาแฟได้ถึง 35 ระดับ เพื่อรองรับการทำกาแฟหลากหลายประเภท เช่น กาแฟเอสเพรสโซ่ไปจนถึง French press มีจานบดขนาด 54 มม. ทำจากเหล็กพิเศษ แข็งแรง บดได้ไว จนทำให้ได้ขนาดการบด และรสชาติของเมล็ดกาแฟที่ดี เครื่องรุ่นนี้สามารถปรับการบดที่ด้านหน้าตัวเครื่องได้ ทั้งสำหรับกาแฟฟิลเตอร์ และกาแฟเอสเพรสโซ่ หน้าจอการใช้งานเป็นแบบ LED สามารถตั้งเวลาได้ 4 ระดับ มีปุ่มกดแบบแมนนวล และปุ่ม multifunctional เพียงกด และหมุน ตัวมอเตอร์ที่มากับเครื่องมีความทนทานอายุการใช้งานมากกว่า 25,000 ช็อต เสียงขณะบดกาแฟ ต่ำกว่า 70 เดซิเบล และโถเมล็ดกาแฟมีความทนทาน จุกาแฟได้เยอะ สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องทำกาแฟที่บดกาแฟได้ครั้งละเยอะๆ แนะนำ Mahlkonig X54 ตัวนี้เลยค่ะ บดไว แข็งแรง ดีไซน์เก๋

ยี่ห้อ	Mahlkonig
ราคา	฿23,000
ขนาดโถ	500 กรัม

8. Oggi รุ่น OX6

เครื่องบดกาแฟอัตโนมัติ Oggi รุ่น OX6 รุ่นนี้มาพร้อมกับขารองด้ามชงขนาด 53 มิล และ 58 มิล สามารถวางด้ามชง 51 53 และ 58 มิลได้  มียางตบไล่กาแฟเมื่อเวลาที่บดเสร็จ จะไม่เหลือกาแฟตกค้างที่เครื่อง ทำให้ทำความสะอาดง่าย มีการทำงานรอบต่ำเพียง 450 RPM จึงทำให้เกิดความร้อนน้อย และไม่ทำให้กลิ่น หรือรสชาติของกาแฟถูกทำลาย มีสวิตช์ตรงที่รองด้ามชง ใช้กดเพื่อสั่งเริ่มหรือการบดหยุดกาแฟโดยไม่ต้องกดที่หน้าจอ สามารถปรับความละเอียดได้ถึง 51 ระดับ ชงได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ดริป เฟรนซ์เพรส โคลด์บรูว์ หรือเครื่องชงเอสเพรสโซ่ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่สามารถตั้งเวลาบดให้ได้ปริมาณพอดีกับขนาดบาสเก็ตที่ใช้ด้วย มีระบบป้องกันไฟฟ้าสถิต ทำให้ผงกาแฟไม่ปลิวเลอะเทอะ มีระบบเฟืองบดทรงกรวยขนาด 40 มิล ผลิตจากสเตนเลสเกรดอาหารที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และทำให้ได้ผงกาแฟที่มีขนาดสม่ำเสมอกัน ค่าความเพี้ยนน้อยกว่า 5% ตัวโถใส่เม็ดกาแฟถอดออกเพื่อล้างทำความสะอาดง่าย มีลิ้นกั้นช่วยให้เปลี่ยนเมล็ดกาแฟได้ง่าย สามารถบรรจุเมล็ดกาแฟได้ถึง 275 กรัม และตัวโถใส่กาแฟบดบรรจุได้ 100 กรัม หากคุณกำลังต้องการเครื่องบดกาแฟที่มีราคาไม่แพง แต่มาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน Oggi รุ่น OX6 รุ่นนี้ตอบโจทย์คุณได้ดีเลยค่ะ แนะนำ

ยี่ห้อ	Oggi
ราคา	฿3,290
ขนาดโถ	275 กรัม

9. APRESSO รุ่น A1

เครื่องบดกาแฟเอเพรสโซ่ เอวัน เป็นเครื่องบดขนาดเล็ก กะทัดรัด น่ารัก ใช้งานง่าย สะดวกในการจัดวาง และเคลื่อนย้ายตัวเครื่องได้ง่าย รุ่นนี้มาพร้อมโถบดกาแฟแบบอะลูมิเนียมมินิ มีตัวตบไล่ผงกาแฟในตัว หลังจากการบดกาแฟทุกครั้งคุณก็สามารถตบไล่ผงกาแฟที่ค้างเครื่องได้เลย  ทำให้ด้านในเครื่องสะอาด ไม่มีกาแฟตกค้าง และทำความสะอาดง่ายขึ้น มีเฟืองบดแบบไทเทเนียม ทรงกรวย บดได้ลเะเอียด นอกจากนั้นรุ่นนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันที่สามารถปรับบดหยาบ ละเอียด ได้ถึง 19 ระดับ และยังมีรายละเอียดบอกที่ระดับการบดไว้ด้วยว่าระดับไหนเหมาะกับการชงกาแฟอะไร ง่ายต่อการใช้งานมากๆ สำหรับคนไหนที่เป็นมือใหม่อยากลองทำกาแฟ แนะนำเครื่องบดกาแฟรุ่นนี้เลยค่ะ มือใหม่ชงได้ มือเก่าชงดี

ยี่ห้อ	APRESSO
ราคา	฿7,074
ขนาดโถ	100 กรัม

10. Duchess รุ่น CG9500W

ทำให้การชงกาแฟเป็นเรื่องที่ง่ายด้วยเครื่องบดเมล็ดกาแฟขนาดกลาง Duchess รุ่น CG9500W รุ่นนี้มากับถังบรรจุเมล็ดกาแฟขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ใส่เมล็ดกาแฟได้ถึง 200 กรัม มีฟังก์ชั่นการทำงานที่สามารถปรับความละเอียดได้ 2 ระดับคือ auto กับ manual ใช้มอเตอร์ขนาด 200 วัตต์ในการทำงาน อีกทั้งยังมีหน้าจอแบบระบบดิจิตอล ให้คุณสามารถเห็นเวลาบดได้อย่างชัดเจน มาพร้อมหัวบดที่ทรงพลังแบบ burr type สามารถตั้งเวลาบดได้ พร้อมทั้งปรับได้หลายระดับตามต้องการ  Duchess รุ่นนี้ ผลิตกาแฟได้ถึง 10 ถ้วยต่อครั้ง เหมาะสําหรับบดเมล็ดกาแฟ เครื่องเทศแห้ง ถั่ว และธัญพืชต่างๆ อีกทั้งยังให้การบดที่สม่ำเสมอ และมีประสิทธิภาพไม่เหลือกาแฟตกค้าง หากคุณกำลังมองหาเครื่องบดกาแฟ ที่มีขนาดไม่ใหญ่ Duchess รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ

ยี่ห้อ	Duchess
ราคา	฿6,790
ขนาดโถ	200 กรัม